ปีใหม่เริ่มต้นด้วยความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน บังคับให้นักลงทุนจำนวนมากย้ายหนีไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ เงินเยนญี่ปุ่น และฟรังก์สวิส ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเนื่องจากเทรนด์คำค้นหา “สงครามโลกครั้งที่สาม” ใน Google พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนน้ำมันก็มีการเคลื่อนไหวที่ผันผวนเช่นกัน แต่ก็อยู่ได้แค่เพียงชั่วครู่หลังจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ลดความรุนแรงลง เทรดเดอร์ที่ติดตามความคืบหน้าอาจทำกำไรได้จากการเคลื่อนไหวของราคาที่ผันผวน แต่นักลงทุนระยะยาวที่ย้ายไปตั้งรับมากขึ้นได้เสียโอกาสไปแล้วหลังจากมีการวิ่งขึ้นอย่างมากในตลาดหุ้นช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์

ด้วยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ร่วงกลับมาใต้ $65 ทำให้เทรดเดอร์เชื่อว่าอิหร่านจะไม่ปิดกั้นช่องแคบฮอร์มุซหรือทำการโจมตีเรือขนส่ง นั่นเป็นเพราะการส่งออกของอิหร่านไปยังประเทศจีนเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของรัฐบาลและหากไม่มีการส่งออก วิกฤตเศรษฐกิจมีแต่จะรุนแรงขึ้นเท่านั้น ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ก็ก้าวถอยจากการเผชิญหน้าทางการทหารเนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะกระทบทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการให้เกิดก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน

การปรับฐาน 10% ในตลาดทุนสหรัฐก็ไม่สามารถตัดออกไปได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่มีมูลค่าในตลาดสูง แต่จากการที่เฟดและธนาคารกลางอื่นๆ เพิ่มการซื้อสินทรัพย์และเพิ่มสภาพคล่องให้มากขึ้น พวกเขากำลังวางรากฐานราคาและชี้นำนักลงทุนไปสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง รายงานงานล่าสุดของสหรัฐแม้ตัวเลขและการเติบโตของค่าจ้างจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังเป็นสูตรที่ดีที่สุดสำหรับการปรับขึ้นของตลาดหุ้น เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเพิ่มการจ้างงานมากพอที่จะรองรับผู้เข้ามาเป็นแรงงานใหม่ และด้วยค่าจ้างเทียบแบบปีต่อปีลดลงไปที่ 2.9% เฟดก็ยังสบายใจได้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงห่างไกล ชี้ว่ายังไม่จำเป็นต้องกระชับนโยบายการเงินอย่างเร่งด่วน

ตอนนี้นักลงทุนจะหันไปสนใจฤดูประกาศผลประกอบการไตรมาสสี่ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้โดนที่ JPMorgan Chase, Wells Fargo และ Citigroup จะรายางานในวันอังคาร จาก Factset ผลประกอบการเทียบปีต่อปีคาดว่าจะลดลง 2% สำหรับกลุ่มบริษัท S&P 500 ในขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 2.6% อย่างไรก็ตามแนวโน้มสำหรับปี 2020 นั้นสดใสกว่าปีที่แล้วโดยคาดว่าผลประกอบการจะเติบโตเป็นตัวเลขสูงหลักเดียว

เราจะได้เห็นการลงนามข้อตกลงการค้า “เฟสหนึ่ง” ระหว่างสหรัฐกับจีนในวันพุธ แม้ข่าวด้านบวกส่วนใหญ่จะมีการเก็งราคาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่รายละเอียดบางอย่างอาจขยับตลาดไปในทิศทางได้ก็ได้ โดยปัจจัยสำคัญที่สุดในข้อตกลงนี้คือสหรัฐกับจีนกำลังมุ่งหน้าไปสู่การลดระดับความตึงเครียดทางการค้าลงและไม่ไปในทิศทางตรงกันข้าม

 

 

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน